• รักษาฝ้าง่ายนิดเดียว •
รักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ
รวมทุกเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับการรักษาฝ้าให้หายขาด
30+
สำหรับสาวอายุ 30+
สาว ๆ หลายคนเมื่อก่อนตอนเป็นเด็กสมัยเรียน ไม่เคยทาครีมหรือครีมกันแดดเลย ไม่ว่าแดดจะแรงแค่ไหนก็ไม่เคยกลัว บางคนเป็นคนที่ผิวค่อนข้างขาวก็เลยรู้สึกว่าตากแดดไปเดี๋ยวก็กลับมาขาวได้เหมือนเดิม แต่พอนานเข้าเมื่ออายุมากขึ้นมันไม่ใช่เรื่องของผิวขาวดำอีกต่อไป กลายเป็นว่าสาว ๆ เริ่มมีฝ้าขึ้นเป็นปื้น ๆ ตรงข้างแก้ม บางคนอาจจะยังไม่รู้สึกหวั่นใจเลยสักนิดว่าต้องรีบรักษา จนถึงตอนนี้กว่าจะมารักษาก็ยากเหลือเกิน เรามาดูวิธีการรักษาฝ้าให้หายกันดีกว่า ง่าย ๆ เองเคล็ดลับเอาชนะฝ้า ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับฝ้ากันก่อน "ฝ้า" (Melasma) ที่เห็นนั้นถือกำเนิดมาจากเซลล์สร้างเม็ดสี ในบริเวณผิวหนังทำงานผิดปกติ จนมีผลให้ส่งเม็ดสีขึ้นมาบนผิวหนังด้านบนเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ความเข้มของสีผิวไม่สม่ำเสมอ ลักษณะเหมือนกับจุดด่างดำแต่มีบริเวณที่กระจายเป็นวงกว้าง บริเวณบนใบหน้ามีโอกาสจะเกิดฝ้าได้ง่ายเพราะมีโอกาสสัมผัสกับแสงแดดมากกว่าส่วนอื่น เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม เหนือคิ้ว และบริเวณเหนือริมฝีปาก จากสถิติแล้วพบว่าการเกิดฝ้าในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและพบมากในวัย 30-40 ปี อ่านสาเหตุการเกิดฝ้าเพิ่มเติม 1. ล้างหน้าให้สะอาดและถูกวิธี ง่ายที่สุดแต่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าเราล้างหน้าไม่สะอาด จะทำให้มีสิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางเกาะติดอยู่ตามรูขุมขนบนใบหน้า แล้วถ้าสะสมเอาไว้มากๆ ก็จะเกิดการก่อตัวของเม็ดสีขึ้น ซึ่งเม็ดสีนี้คือสาเหตุของการเกิดฝ้าค่ะ ดังนั้น ก่อนล้างหน้าทุกครั้งสาวๆ ควรเช็ดเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจด เพื่อเป็นการขจัดคราบสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนใบหน้า ช่วยทำให้ผิวสะอาดอย่างล้ำลึก 2. พอกหน้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ วิธีนี้จะเน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งก็มีหลายชนิดที่ช่วยเรื่องฝ้าได้ เช่น หัวไชเท้า ว่านหางจระเข้ มะขามเปียก ใบบัวบก ซึ่งแต่ละสูตรนั้นควรทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งก็พอ อ่านเรื่องการรักษาฝ้าด้วยสมุนไพร และรับประทานอาหารเสริมออร์แกนิคจากธรรมชาติเพื่อรักษาจากภายในสู่ภายนอก 3. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะแสงแดดนั้นเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดฝ้า ทั้งแสงอัลตราไวโอเลต รวมทั้งแสง visible light หรือแม้แต่แสงจากโทรศัพท์มือถือก็เป็นปัจจัยทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน หรือกระตุ้นเกิดฝ้าได้มากขึ้นทั้งนั้น ดังนั้นวันไหนได้ออกจากออฟฟิศ แต่โดนแสงไฟจากห้องประชุมอาบร่างทั้งวันทั้งคืน ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นฝ้าได้เหมือนกัน ครีมกันแดดจึงเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ในชีวิตเราเลยก็ว่าได้ ห้ามเกเรหรือขี้เกียจทาเด็ดขาด ถ้าไม่อยากโดนฝ้าถามหานะคะสาวๆ 4. ขาดวิตามินบางตัว มีการพบว่าผู้ที่ขาดวิตามินบี 12 จะมีให้เกิดการทำงานผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน จึงก่อให้เกิดฝ้า วิตามิน B 12 จะมีอยู่ในเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง และอาหารหมักดองเช่น กะปิ น้ำปลา เต้าเจี้ยวบ้าง ใครกินของพวกนี้ก็จะได้รับวิตามินตัวนี้ไปอยู่แล้ว ส่วนใครที่ไม่มีเวลา หาวิตามิน B รวมมาทานก็ได้เช่นกัน นอกจากวิตามิน B 12 จะช่วยเรื่องฝ้าแล้วยังช่วยบำรุงปลายประสาทอีกด้วย เรียกว่าคุ้มสองต่อเลยนะงานนี้ 5. ฮอร์โมน ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนสามารถทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติได้ โดยอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์, วัยหมดประจำเดือน ก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ หลายคนอาจมองว่าไกลตัว แต่ฮอร์โมนเหล่านี้สามารถรับจากภายนอกร่างกายได้เช่นกัน เช่น การใช้เครื่องสำอางบางชนิดที่มีฮอร์โมผสมอยู่ (เช่น ครีมอกตู้มทั้งหลาย มักใส่เฮอร์โมนเพศที่สกัดจากพืชผสมอยู่มาก), รับประทานยาคุมกำเนิด เป็นต้น จึงมักพบผู้ที่เป็นฝ้าขณะตั้งครรภ์หรือรับประทานยาคุมกำเนิดทำการรักษาฝ้าไม่ได้ผม ดังนั้นการลด ละ เลิกการทานยาคุมกำเนิดหรือเครื่องสำอางตัวนั้นอาจทำให้ฝ้าดีขึ้นได้ หรือหากใครต้องทานยาคุมจริง ๆ อาจปรึกษาแพทย์เพื่อหายาตัวอื่นที่มีปริมาณฮอร์โมนต่ำกว่าที่ทานอยู่ก็ได้
0 Comments
|
|